ไม่มีหมวดหมู่

ผ้าและเนื้อผ้า

ความรู้เกี่ยวกับผ้าแต่ละชนิด

ปัจจุบันเนื้อผ้าที่นำมาตัดเย็บเครื่องนุ่งห่ม เครื่องแต่งกาย หรือผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านนั้นมีหลากหลายแบบ หลายชนิด ซึ่งผู้ผลิตต่างก็นำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตทักทอ จึงก่อให้เกิดเนื้อผ้าในแบบต่างๆ ที่มีคุณสมบัติเหมาะกับการใช้งานในแต่ละประเภท ซึ่งในท้องตลาดก็มีจำหน่ายมากมาย  การเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับการสวมใส่ในช่วงเวลาที่ต้องการและเหมาะกับสภาพอากาศในขณะนั้น จำเป็นที่เราควรจะรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับชนิดผ้าและคุณสมบัติเพื่อเลือกซื้อให้ถูกต้อง 

ผ้า Cotton

แบ่งตามขนาดของเส้นด้ายที่นิยมใช้ทอผ้ามีดังนี้

1. Cotton No.20 เส้นด้ายมีขนาดใหญ่สุด ผ้าที่ทอจึงมีความหนา
2. Cotton No.32 เส้นด้ายเล็กว่า Cotton No.20 ผ้าที่ทอจะมีความเนียนและบาง
3. Cotton No.40 เส้นด้ายเล็กสุด ผ้าที่ทอจึงมีความเนียนและบาง

แบ่งตามส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์

1. COTTON 100% ได้จากเส้นใยฝ้าย 100% ข้อดี ใส่สบายไม่ระคายเคือง ถ่ายเทอากาศได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย ข้อเสีย ยับง่ายกว่าใยสังเคราะห์ เนื้อผ้ามีการหดตัว ราคาจะสูงกว่าผ้า TC และ TK
2. COTTON ผสมโพลีเอสเตอร์(เส้นใยสังเคราะห์) หรือเรียกอีกอย่างว่าผ้า TC ผ้าชนิดนี้นิยมนำมาทอให้มีลักษณะเป็นรู เนื่องจากผ้าTCและ TK มีคุณสมบัติระบายอากาศไม่ค่อยดี จึงนิยมทอผ้าให้มีรูเล็กๆ เพื่อช่วยระบายอากาศ
ข้อดี ไม่ยืดไม่หดไม่ย้วย, คืนตัวไวไม่ยับง่าย ราคาถูก ข้อเสียถ่ายเทอากาศไม่ค่อยดี ติดไฟง่าย ไม่เหมาะกับงานบางประเภท

นอกจากนี้เส้นใยCOTTONจะแบ่งออกเป็นลักษณะดังนี้

1. Cotton OE เป็นCotton เกรดต่ำสุด ผ้าจะมีความกระด้างกว่าผ้า Cotton ชนิดอื่น 
2. Cotton Semi เป็นCotton เกรดปานกลาง ผ้ามีความเนียน ไม่กระด้างมาก ราคาไม่สูง และ คุณภาพค่อนข้างใช้ได้ 
3. Cotton Comb เป็นผ้า Cotton เกรดดีที่สุด ผ้ามีความเนียนและเงามาก ราคาสูงมากกว่าCottonเกรดอื่น

ผ้า TK

ผ้า TK เป็นผ้าใยสังเคราะห์ 100% ไม่มีส่วนผสมของฝ้าย ข้อดี ราคาถูกไม่ยืดไม่หดสปริงตัวดี  เนื้อผ้ามีความมัน ข้อเสีย ระบายอากาศไม่ดี ดูดซับเหงื่อได้น้อย ถ้าใส่ในช่วงอากาศร้อนๆหรืออบอ้าวจะรู้สึกไม่สบายตัว  ถ้าซักบ่อยจะขึ้นขุยง่าย
    เส้นด้าย ที่นิยมนำมาทอผ้า TK มีดังนี้ 
TK No.20 เส้นด้ายจะมีขนาดใหญ่ ใช้ทอได้ทั้งผ้าเรียบและผ้าจูติ 
ลักษณะการทอมีอยู่ 2 แบบ ดังนี้ 
      1.แบบเนื้อ Lacoste หรือ เนื้อ Juti 
              – ทอแบบ Juti รูจะเป็นรูปรังผึ้ง 
              – ทอแบบ Lacoste รูจะเป็นรูปข้าวหลามตัดเล็กๆ 
      2.แบบเนื้อเรียบ  

ผ้า TC

ผ้า TC เป็นผ้าใยสังเคราะห์ที่มีส่วนผสมของฝ้ายในอัตราส่วนโพลีเอสเตอร์ 65% ฝ้าย 35% มีหลายเกรด แต่ชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป เช่น CVC ส่วนผสมโพลีเอสเตอร์ 70-85% ฝ้าย 15-30% ส่วน TCT ใช้COTTON 70% โพลี่เอสเตอร์ 30% ในตลาดจะเรียกเป็นเบอร์ ต่างๆเช่น 20, 32 ,40 (ตัวเลขมากเส้นด้ายยิ่งเล็ก คุณภาพยิ่งดี) ส่วนใหญ่ตามท้องตลาดจะใช้เบอร์ 20
ส่วนคุณสมบัติของผ้าTCนั้น เนื่องจากมีส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์ การระบายความร้อนอยู่ในระดับปานกลางไม่ดีเท่า COTTON100% แต่ดีกว่า TK ราคาจะสูงกว่าผ้า TK เนื้อจะนุ่มกว่าTK การขึ้นขุ๋ย จะช้ากว่า TK ใส่สบาย
ขนาดเส้นด้าย ที่นิยมนำมาทอผ้า TC มีดังนี้
1.1 TC No.20 เส้นด้ายมีขนาดใหญ่สุด ใช้ทอได้ทั้งผ้าเรียบและผ้าจูติ
1.2 TC No.34 เส้นด้ายมีขนาดเล็กมาก ใช้ทอผ้าจูติ จึงต้องทอเป็นเส้นคู่

ผ้า CVC

ผ้าชนิดนี้เป็นเนื้อผ้าชนิดรองลงมาจากผ้าCotton เป็นเส้นใยผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติ (Cotton) และ เส้นใยสังเคราะห์ (Polyester) แต่มีส่วนผสมของ Polyester น้อยกว่าผ้า Cotton ส่วนผสมของผ้าชนิดนี้จะอยู่ที่ Cotton 80% – Polyester 20% ไปจนถึงส่วนผสม Cotton 65% – Polyester 35% ผ้าชนิดนี้ก็ถือว่าเป็นที่นิยมในท้องตลาดมาก เนื่องจากมีคุณภาพดี เกือบเทียบเท่าคุณภาพผ้า Cotton แต่ถูกดัดแปลงให้มีความคงทนที่มากขึ้น และมีราคาที่ถูกกว่า

คุณสมบัติผ้าแต่ละชนิด

TK
TC
CVC
CVC-H
Dry tech